กลไกของปวดศีรษะเป็นได้จาก การมีความดันในสมองสูง, เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือการระคายเคืองของเยื่อหุ้มอักเสบ, หรือ แม้กระทั่งมาจากการอักเสบจากส่วนของใบหน้ารวมถึงหู คอบ่าไหล่
อาการปวดศีรษะที่เป็นสัญญาณอันตราย (Red flag sign) ดังต่อไปนี้
- อาการไข้รวมถึงอาการทางร่างกายอื่นๆ เช่นผื่น เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- อาการที่บ่งบอกถึงโรคในสมอง เช่น เห็นภาพซ้อน พูดไม่ชัด สื่อสารไม่ได้ แขนขาอ่อนแรงหรือควบคุมร่างกายได้ไม่ เหมือนเดิม เวียนศีรษะบ้านหมุน เซ คลื่นไส้อาเจียน ซึมลง อ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้
- ลักษณะการปวดศีรษะเกิดขึ้นทันทีกระทันหัน โดยเฉพาะปวดศีรษะแบบฉับพลัน (thunderclap headache)
- . หากอาการปวดศีรษะจากเดิมที่เคยเป็น แต่มีลักษณะเปลี่ยนไป เช่น เคยปวดไมเกรน แต่ครั้งนี้ปวดต่างไปจากการปวด แบบเดิม
- ปวดศีรษะตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น ปวดศีรษะเวลานอน หรือ ปวดศีรษะเวลานั่งหรือยืน
- ปวดศีรษะนั้นๆ เกิดขึ้นทันที ตามหลังการเบ่งไอจาม ออกกำลังกาย หรือขณะมีเพศสัมพันธ์
- อาการปวดศีรษะมากจนตื่น โดยเฉพาะช่วงเช้า หรือขณะนอนหลับ
- อาการปวดศีรษะนั้นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นปวดศีรษะ จากคะแนนน้อยไปมากไปเรื่อยๆ
- ปวดศีรษะขณะตั้งครรภ์
- มีอาการตาแดง น้ำตาไหลร่วมด้วย โดยเฉพาะกรณีที่มีอาการตาแดงน้ำตาไหลข้างเดียว
- หลังจากอุบัติเหตุ หรือมีประวัติอุบัติเหตุ
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือทานยากดภูมิอยู่
- ผู้ป่วยที่ทานยาแก้ปวด เป็นประจำ
การตรวจรักษาของโรคปวดศีรษะ เริ่มจากการตรวจร่างกาย ทำเอ็กซเรย์สมองในกรณีที่สงสัยว่าเป็นโรคที่เกิดจากในสมอง ส่วนการรักษาขึ้นกับโรคนั้นๆที่เป็น
แพทย์หญิงจักษณี วรนุชกุล
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองและระบบประสาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
ศูนย์อายุรกรรม
ชั้น 1B โรงพยาบาลสุขุมวิท
โทร. 02-391-0011 ต่อ 225, 226, 227
ติดตามรับข้อมูลข่าวสารอัพเดทจากทางโรงพยาบาล: