ปัจจุบันเราพบว่า ผู้สูงอายุมักมีปัญหาโรคข้อเข่าเสื่อมกันมากขึ้น ซึ่งหากว่าอาการข้อเข่าเสื่อมเป็นถึงขั้นรุนแรงจนทำให้ปวดเข่ามากหรือไม่สามารถใช้งานเข่าได้ดังเดิมแล้วนั้น ก็จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม หรือปลี่ยนเข่า แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ป่วยเป็นกังวลมากและไม่อยากเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมนั้นก็คือ กลัวว่าผ่าตัดแล้วจะใช้งานเข่าได้ไม่ดีเหมือนเดิม แต่ก่อนการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเทียมแบบเดิมๆ ที่ใช้เพียงแพทย์เป็นผู้ควบคุมการผ่าตัดนั้น บางครั้งก็พบว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจจนอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ในหลายๆ กรณี เช่น ข้อเข่าผิดรูป เข่าโก่ง เข่างอ เข่ายึดติด เหยียดไม่สุด งอไม่เข้า เข่าหลวม หรือ ใช้งานเข่าเทียมได้ไม่เหมือนธรรมชาติ เช่น ไม่สามารถนั่งกับพื้น หรือนั่งคุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิไม่ได้ ออกกำลังกายหรือวิ่งไม่ได้ รวมถึงผิวข้อเข่าเทียมที่ใส่เอาไว้หลวมหรือทรุด อันอาจส่งผลให้จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขข้อเข่าเทียมรอบ 2 หรือ 3 ตามมาได้

แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคกระดูกและข้อ ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสุขุมวิท ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้น ประกอบกับความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่มากขึ้น ทำให้ปัจจุบันแพทย์สามารถผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมโดยใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดได้แล้ว ( Robotic Assisted Joint Replacement Surgery ) โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดร่วมกับการทำงานของเครื่องมือต่างๆ ทั้งในส่วนของแขนกลหุ่นยนต์ กล้องจับสัญญาณภาพ 3 มิติ และเครื่องมือที่ใช้สำหรับประมวลผล ไปพร้อมๆ กับการควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์ด้วย ส่งผลให้การผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมทำได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรงแม่นยำไม่เกิดข้อผิดผลาดใดๆ จึงทำให้ผลการผ่าตัดออกมาดีเหมือนกันในทุกๆ ราย ซึ่งนอกจากผู้ป่วยจะหายปวดเข่าแล้วยังช่วยให้สามารถกลับมาทำกิจกรรมต่างๆหรือออกกำลังกายอย่างที่เคยทำได้อีกด้วย

โดยขั้นตอนการทำงานนั้น เริ่มจากหุ่นยนต์จะเข้ามาช่วยสร้างภาพของข้อเข่าที่จะทำการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม โดยแพทย์จะทำการป้อนข้อมูลให้แก่หุ่นยนต์ขณะทำการผ่าตัด ทำให้ได้ภาพ Digital Model ที่มีลักษณะเฉพาะเหมือนข้อเข่าของผู้ป่วยในแต่ละราย หลังจากนั้นแพทย์จะทำการวางแผนการใส่ผิวข้อเข่าเทียม โดยกำหนดทั้งขนาด ตำแหน่ง มุม แล้วป้อนข้อมูลเหล่านั้นไปยังหุ่นยนต์ จากนั้นแพทย์จะใช้หุ่นยนต์ตัดเฉพาะส่วนผิวข้อที่เสื่อมออก ระหว่างที่ทำการผ่าตัดแพทย์จะดูภาพ 3 มิติของข้อเข่าผ่านทางจอมอนิเตอร์ซึ่งจะทำให้เห็นถึงตำแหน่งและองศาต่างๆ ของข้อเข่าที่ทำการผ่าตัดอยู่แบบ Real Time และเมื่อตัดเอาผิวข้อที่เสื่อมออกหมดแล้ว จึงนำผิวข้อเข่าเทียมเข้าไปวางแทนที่ในตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นผิวข้อที่เสื่อมอยู่ได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำ นอกจากนั้น การใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดยังสามารถทำให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กลงเนื่องจากแพทย์สามารถมองภาพข้อเข่าได้จากจอมอนิเตอร์ จึงไม่จำเป็นต้องเปิดแผลผ่าตัดให้มีขนาดใหญ่เหมือนการผ่าตัดแบบเดิมๆ

ข้อดีของการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียมด้วยหุ่นยนต์

1. ผ่าตัดได้อย่างแม่นยำตรงจุด ลดการเกิดข้อผิดพลาดของแพทย์ขณะผ่าตัด ( Human Error )
2. แผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวได้ไว เพียง 1 วันหลังผ่าตัด ก็สามารถยืนหรือเดินได้แล้ว
3. อาการปวดหลังผ่าตัดน้อยลง
4. การเสียเลือดจากการผ่าตัดน้อยลง ทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยมากขึ้น
5. ใช้ข้อเข่าได้ดีใกล้เคียงธรรมชาติ เช่น นั่งกับพื้น นั่งยองๆ คุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิ รวมทั้งวิ่ง หรือ ออกกำลังกายได้
6. ช่วยยืดอายุการใช้งานข้อเข่าเทียมให้สามารถใช้งานได้นานขึ้น
7. หมดกังวลเรื่องการผ่าตัดแก้ไขข้อเข่าเทียมซ้ำอีก
8. กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง ไม่ต้องทนกับอาการปวดเข่าเรื้อรัง

การผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์นี้จะมีราคาแพงกว่าการผ่าตัดแบบเดิมเพียงประมาณ 20% เท่านั้นซึ่งถือว่าคุ้มมากเมื่อแลกกับผลการผ่าตัดที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงทางเลือกต่างๆ ในการรักษาก่อนตัดสินใจ
#เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าเข่า #ผ่าเข่า #โรคข้อเข่าเสื่อม #ข้อเข่า #ซ่อมเข่า #ผิวข้อเข่าเทียม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ศูนย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ
ชั้น 1 โรงพยาบาลสุขุมวิท
เปิดบริการทุกวัน 07.00 - 20.00 น.
โทร. 02-391-0011 ต่อ 110, 111
นัดหมายแพทย์