เครื่องกระตุ้นหัวใจไร้สาย


โรคหัวใจ

เครื่องกระตุ้นหัวใจไร้สาย เทคโนโลยีการรักษาแนวใหม่สำหรับผู้ป่วยหัวใจเต้นผิดจังหวะ

“ภาวะอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละรายจะมีอาการช้า หรือเร็วจนถึงขั้นหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งมาในรูปแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะโดยพื้นฐานแล้วชีพจรของคนเราจะเต้นประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาทีในขณะพัก แต่เวลาออกแรงชีพจรก็อาจจะเต้นเร็วขึ้นเป็น 100-120 ครั้งต่อนาที หรือในขณะนอนหลับชีพจรอาจจะเต้นช้าลงก็ได้เช่นกัน แต่เมื่อใดที่ชีพจรเต้นน้อยกว่า 40 ครั้งต่อนาทีต้องรีบเข้ามาพบแพทย์โดยทันที ในขณะเดียวกันหากพบว่าชีพจรเต้นเร็วเกินกว่า 150 ครั้งขึ้นไปก็ควรรีบเข้ามาพบแพทย์เช่นกัน

ประเภทของหัวใจเต้นผิดจังหวะ

สำหรับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ มีทั้งหมด 3 ประเภท คือ

  • หัวใจเต้นช้า
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • หัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ

นอกจากนี้ถ้าดูจากตามลักษณะอาการที่เกิด จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

  1. มีอาการตลอดเวลา ซึ่งสามารถตรวจวินิจฉัยได้ไม่ยาก เพราะมาตรวจเมื่อไรก็พบความผิดปกติได้

  2. มีอาการเป็นๆ หายๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตรวจวินิจฉัยยาก คนกลุ่มนี้จำเป็นต้องใช้เวลา และอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อช่วยในการวินิจฉัย

กลุ่มเสี่ยงที่จะสามารถเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะนั้น สามารถเกิดได้กับทุกช่วงอายุ เพราะหัวใจเต้นผิดจังหวะเองก็มีหลายประเภท แต่ละช่วงอายุก็จะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน เช่น กลุ่มที่มีอายุน้อยมักจะพบภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้บ่อย แต่ในกลุ่มอายุมากโดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุ 65 ปี จะมีความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่รุนแรงและ มีภาวะแทรกซ้อนมากกว่า เช่น ภาวะหัวใจสั่นระริก หรือ Atrial Fibrillation (AF) ซึ่งจะเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาหลายด้าน ได้แก่ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการหน้ามืดได้

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมีความเสี่ยงทุกช่วงอายุ เพียงแต่ละช่วงอายุอาจพบกลุ่มโรคที่แตกต่างกัน

เทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

การรักษาในปัจจุบันวงการแพทย์ได้มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามาช่วยให้สามารถตรวจจับ พร้อมวัดสัญญาณไฟฟ้าหัวใจ ขณะเกิดเต้นผิดจังหวะอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งในแง่ของการรักษาภาวะหัวใจเต้นช้าอันมีเหตุมาจากความเสี่ยงนั้น ปัจจุบันไม่มียาชนิดใดที่ช่วยในการรักษาได้ ดังนั้นการรักษามาตรฐาน คือ การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจชนิดถาวรโดยจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 แบบ คือ

  1. แบบมาตรฐาน ซึ่งเมื่อก่อนเป็นที่มีสาย โดยตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยแบตเตอรี่ มีสายนำสัญญาณเข้าไปที่ห้องหัวใจ ซึ่งข้อเสียข้องวิธี คือ สายที่ใส่ไว้อาจมีโอกาสเลื่อนหลุดได้

  2. เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่เรียกว่า เครื่องกระตุ้นหัวใจไร้สาย หรือ Micra Pacemaker ซึ่งจะมีเพียงตัวเครื่องกับแบตเตอรี่ขนาดเล็กเทียบได้ขนาดยาเม็ดแคปซูล และมีอายุการใช้งานนานถึง 14 ปี โดยที่ตัวเครื่องจะปราศจากสายทำให้โอกาสที่จะเลื่อนหลุด จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยแพทย์จะทำการสอดใส่เข้าเส้นเลือดดำบริเวณขาหนีบของผู้ป่วยจึงไม่ต้องกังวลเรื่องแผลที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในกรณีที่ผู้ป่วยที่เข้ารับการฝั่งเครื่องกระตุ้นหัวใจไร้สายผู้ป่วยต้องได้เข้ารับการตรวจด้วยเครื่องสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ MRI เสียก่อน หลังจากที่ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไร้สายเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่หลังจากที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจแล้ว ควรงดเว้นการงอขาเป็นเวลา 6 ชั่วโมง จากนั้นก็สามารถเดินตามปกติ และสามารถทำกายภาพบำบัดได้โดยไม่ต้องระวังเรื่องของสายจะเลื่อนหลุดเหมือนเครื่องมาตรฐานทั่วไป

ทั้งนี้การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจรุ่นใหม่แพทย์จะทำการสอดใส่เส้นเลือด เพราะฉะนั้นการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจรุ่นใหม่อาจมีข้อจำกัดในกลุ่มผู้ป่วยบางรายที่มีปัญหาเส้นเลือด เช่น ผู้ป่วยที่ต้องฟอกไต ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจบางราย และกลุ่มผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการฝั่งเครื่องโดยผ่านเส้นเลือด เพราะฉะนั้นการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจรุ่นใหม่ จึงจำเป็นต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้ชำนาญการ

ศูนย์โรคหัวใจโรงพยาบาลสุขุมวิท มีทีมพยาบาล ที่สามารถให้คำปรึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และแนวทางการตรวจรักษาเบื้องต้น จากนั้นจึงมีการนัดหมายให้มาพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อช่วยลดขั้นตอน และช่วยให้ผู้ป่วยสะดวกมากยิ่งขึ้น

แนวทางการป้องกันการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

สำหรับการป้องกันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะนั้นทำได้ค่อนข้างยาก เพราะตัวโรคเองก็มีความหลากหลาย และสามารถพบได้เกือบทุกช่วงอายุ ดังนั้น ผู้ป่วยจึงมีความจำเป็นต้อง

  • ทำให้สุขภาพแข็งแรง เช่น การออกกำลังกายอย่างน้อย วันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
  • ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • ตรวจเช็คสุขภาพสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการตรวจวัดระดับน้ำตาล และระดับไขมันในเลือด เป็นตัน

นอกจากนี้สำหรับวัยกลางคน แนะนำให้ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อคัดกรองความเสี่ยงของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ไปพร้อมกัน



นพ. อภิชัย โภคาวัฒนา

นพ. อภิชัย โภคาวัฒนา
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด เฉพาะทางโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ




สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ศูนย์โรคหัวใจ
ชั้น 6 โรงพยาบาลสุขุมวิท
โทร. 02-391-0011 ต่อ 665, 666


ติดตามรับข้อมูลข่าวสารอัพเดทจากทางโรงพยาบาล:

   
VAR_INCL_CK