เป็นโรคทางจิตเวชที่เกิดจากการหลั่งสารสื่อประสาทในสมองผิดปกติหรือไม่สมดุล ซึ่งอาจเป็นผลจากการมีความเครียดสะสมนานๆหรือมีการสูญเสีย ผิดหวัง เจอเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนทางจิตใจรุนแรง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงตามวัยโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ส่งผลกระทบต่อความนึกคิด อารมณ์ พฤติกรรมจนนำไปสู่การตัดสินใจในทางลบรวมถึงการฆ่าตัวตายได้ เปรียบเทียบง่ายๆ เหมือนเรามีเขื่อนที่คอยป้องกันแต่เขื่อนนั้นถูกกัดเซาะจนพัง จึงไม่สามารถกั้นน้ำเข้ามาได้
ในคนที่ต้องอยู่กับความเครียดที่หนักและยาวนานหรือมีเหตุการณ์รุนแรงแล้วมีอาการสำคัญที่ชัดเจน นอกจากอารมณ์เศร้า ร้องไห้ อ่อนไหวมากกว่าปกติแล้ว คนที่เป็นโรคมักหมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ เคยทำแล้วมีความสุข ไม่สามารถดึงตัวเองออกจากปัญหาและอารมณ์เศร้าได้ ร่วมกับมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอื่นๆ ทั้งไม่อยากกินหรือกินมากกว่าปกติ นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางคืน หรือนอนมากเกินไปแต่ไม่สดชื่น กระทบกับการเรียนหรือการทำงาน รู้สึกตัวเองไร้ค่า จนถึงความคิดทำร้ายตัวเอง ซึ่งอาการเหล่านี้ต้องมีติดต่อกันนานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป และเป็นแทบตลอดทั้งวัน บุคคลเหล่านี้อาจส่งสัญญาณให้เราสังเกตหรือระวังไว้ เช่น การสั่งเสีย ร่ำลา เตรียมการจากไป การเขียนจดหมายลาตาย ความคิดที่จะทำร้ายตัวเองที่รุนแรงและตั้งใจเช่น การกระโดดตึก ใช้ปืน โดยหากเคยมีประวัติการทำร้ายตัวเองมาก่อน ควรต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ผู้ป่วยควรได้รับการวินิจฉัยและให้การดูแลรักษาโดยเร็วและถูกต้องโดยจิตแพทย์ ซึ่งโรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาต้านโรคซึมเศร้าเพื่อปรับระดับของสารสื่อประสาท รวมถึงการให้คำปรึกษา การทำจิตบำบัดเพื่อปรับความนึกคิด การแก้ปัญหา ทัศนคติและพฤติกรรม ที่สำคัญมากคือการเฝ้าระวังไม่ให้มีการทำร้ายตัวเองเกิดขึ้น
แพทย์หญิงหรรษา ลีลาทนาพร
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจิตเวช