“นิ่วในถุงน้ำดี” หนึ่งในโรคระบบทางเดินอาหารที่สามารถเกิดได้กับทุกคนและเป็นอันตรายหากปล่อยทิ้งไว้นาน เนื่องจากโรคนิ่วในถุงน้ำดีมักไม่มีอาการแสดงในระยะเริ่มต้น หรือหากมีอาการ ในระยะแรกอาจคล้ายคลึงกับอาการของโรคกระเพาะอาหาร ทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจผิดและซื้อยามารับประทานเองโดยไม่ไปพบแพทย์ เมื่อปล่อยทิ้งไว้ไม่ทำการรักษา อาจเกิดการติดเชื้อในช่องท้องจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งหลาย ๆ คนมักตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดีจากการตรวจสุขภาพประจำทุกปี โดยไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ
ดังนั้น การตรวจสุขภาพอย่างละเอียดเป็นประจำ ช่วยให้เราตรวจเจอความผิดปกติของร่างกายได้ก่อนแสดงอาการ ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ และวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
ถุงน้ำดี (Gallbladder) คือ อวัยวะที่อยู่ในบริเวณช่องท้อง มีลักษณะเป็นกระเปาะ ทำหน้าที่เป็นที่พักหรือที่กักเก็บน้ำดีที่ถูกผลิตจากตับ ก่อนส่งต่อน้ำดีไปยังลำไส้เล็กเพื่อทำหน้าย่อยไขมัน
นิ่วในถุงน้ำดี หรือ Gall Stone เกิดจากการตกตะกอนของหินปูนหรือคอเลสเตอรอลภายในถุงน้ำดี และก้อนนิ่วที่เกิดขึ้นอาจมีขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายหรือใหญ่เท่าลูกกอล์ฟ และมีจำนวนก้อนนิ่วเกิดได้มากนับร้อยก้อนอุดตันอยู่ในถุงน้ำดี ซึ่งนิ่วในถุงน้ำดี สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
นิ่วในถุงน้ำดี เป็นโรคระบบทางเดินทางอาหารที่มักไม่แสดงอาการอย่างชัดเจน หากไม่ได้เกิดการอักเสบอย่างเฉียบพลันหรือมีการติดเชื้อในช่องท้อง มักตรวจพบในผู้ที่มีการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด แต่เราสามารถสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายที่อาจเป็นสัญญานเตือนของโรคนี้ได้ ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี มักมีอาการ
ในรายที่เกิดถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน (Acute Cholecystitis) จะมีอาการปวดท้องรุนแรง จุกเสียดแน่นท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา หรือลิ้นปี่ ปวดมากเวลาหายใจเข้าลึกๆ หากมีอาการมากจะมีภาวะดีซ่าน ตัวเหลืองตาเหลืองร่วมด้วย หากเกิดถุงน้ำดีแตกทะลุจะมีอาการหนาวสั่น มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็ง ปวดบิดเกร็งเป็นพักๆ ควรรีบพบแพทย์อย่างเร่งด่วน
อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า “นิ่วในถุงน้ำดีที่เกิดจากคอเรสเตอรอล” เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด นั่นอาจบ่งบอกได้ว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราอาจเป็นหนึ่งในสิ่งกระตุ้นของการเกิดโรค โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะอ้วน เพราะมีปริมาณคอเลสเตอรอลในน้ำดีเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ อีก ได้แก่
หากคุณมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น หรือสงสัยว่าตนเองมีอาการอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของโรคนิ่วในถุงน้ำดี ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา โรคนิ่วในถุงน้ำดี สามารถทำการตรวจวินิจฉัยได้โดยการอัลตร้าซาวด์ช่องท้องส่วนบนเพื่อดูว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีหรือไม่ หากตรวจพบก้อนนิ่ว สามารถทำการรักษาได้โดยการผ่าตัดทั้งแบบเปิดหน้าท้องและผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องนั้น แพทย์จะเลือกใช้ในกรณีที่การอักเสบมาก ถุงน้ำดีแตก หรือมีการติดเชื้อในช่องท้อง
โดยแพทย์จะทำการสอดกล้องขนาดเล็กผ่านบริเวณสะดือและชายโครงขวา มีแผลขนาดเล็กเพียง 0.5 ซม. เพื่อทำการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี ผู้ป่วยจะเสียเลือดน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว กลับบ้านภายใน 1-2 วัน แต่หากปล่อยไว้ให้เกิดการอักเสบมากนานหลายวัน อาจส่งผลให้ยากต่อการรักษา เมื่อเกิดอาการผิดปกติ ไม่ควรปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจไม่สามารถรักษาด้วยวิธีผ่าตัดผ่านกล้องได้
ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดผ่านกล้อง เป็นวิธีการรักษาที่ได้มาตราฐานและเป็นที่ยอมรับ ช่วยให้แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัววัย และลดความเสี่ยงการติดเชื้อหลังผ่าตัด
นพ.ปัญญา วงศ์จินดาพรรณ
แพทย์ศัลยกรรมทั่วไป