ไส้เลื่อน คือ ภาวะที่ลำไส้เคลื่อนตัวออกมานอกช่องท้อง ทำให้มีลักษณะคล้ายก้อนตุง นูน เป็นก้อนนุ่ม ซึ่งเกิดจากความบอบบางของผนังช่องท้องที่มีมาแต่กำเนิด หรือเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น
- โรคอ้วน หรือมีภาวะน้ำหนักเกิน
- จากการผ่าตัด
- ภาวะแรงดันในช่องท้องที่มากผิดปกติจากสาเหตุต่าง ๆ อาทิ
- การออกแรงเบ่งจากภาวะท้องผูก
- การออกแรงเบ่งปัสสาวะในผู้ที่มีภาวะต่อมลูกหมากโต
- การไอเรื้อรัง
- การยกของหนักหรือการออกกำลังกาย เป็นต้น
ซึ่งก้อนที่ตุงหรือนูนออกมานั้น อาจสามารถเลื่อนเข้าออกได้
ไส้เลื่อน มีกี่ชนิดและมีอาการอย่างไร?
- บริเวณขาหนีบ (Groin Hernia)
- บริเวณหน้าท้องรอบสะดือ (Umbilical Hernia)
- บริเวณรอบแผลผ่าตัด (Incisional Hernia)
ผู้ที่เป็นไส้เลื่อนมักจะมีอาการเจ็บหรือปวดหน่วง ๆ บริเวณที่เกิดโรค โดยเฉพาะเวลาที่ก้มตัว ไอ หรือยกสิ่งของ เบ่งถ่ายอุจจาระ บางรายอาจมีอาการผิดปกติที่ช่องท้อง รู้สึกแน่นท้อง หรือมีอาการปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย บางรายที่เป็นไส้เสื่อน บริเวณกระบังลม อาจทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน เจ็บหน้าอก หรือมีปัญหาในการกลืน แต่ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ มีแต่เพียงอาการให้เห็นภายนอกเท่านั้น
การรักษาไส้เลื่อน
หากท่านพบว่าตนเองมีอาการที่น่าสงสัยว่าจะเป็นไส้เลื่อน ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและรักษา เพราะหากทิ้งไว้นาน อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่รุนแรงได้ เช่น
- ไส้เลื่อนติดคา ไม่สามารถกลับเข้าไปในช่องท้องได้
- ลำไส้ขาดเลือด เน่าตาย
- ลำไส้อุดตัน
ซึ่งภาวะเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ และในปัจจุบันโรคไส้เลื่อนสามารถรักษาได้ 2 วิธี คือ
- การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง (Open Surgery)
- การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Surgery) โดยการเจาะรูเล็ก ๆ ผ่านทางหน้าท้อง ให้ผลการรักษาดีเทียบเท่ากับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง (Open Surgery) แต่มีข้อดีกว่าในหลาย ๆ ด้าน เช่น
- มีแผลผ่าตัดที่เล็กลง ผู้ป่วยเจ็บแผลน้อยลง
- เสียเลือดน้อย
- ระยะเวลาพักพื้นไม่นาน
- ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
ไส้เลื่อน ป้องกันได้อย่างไร?
ไส้เลื่อนที่ไม่ได้มีสาเหตุจากความผิดปกติของร่างกายแต่กำเนิด สามารถป้องกันได้โดยการรักษาระดับแรงดันภายในช่องท้องให้เป็นปกติ ดังนี้
- ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสม ไม่อ้วนจนเกินไป
- รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเป็นประจำ เพื่อลดอาการท้องผูก
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก ควรยกสิ่งของให้ถูกวิธีด้วยการย่อตัวลงและหยิบของ โดยพยายามให้หลังตรงอยู่เสมอ
- ไม่สูบบุหรี่ เพื่อลดอาการไอ
- ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการไอติดต่อกันผิดปกติ
- ถ้ามีภาวะไอเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง ควรมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา เพราะไอเรื้อรังเป็นเหตุการเกิดไส้เลื่อน
- ถ้ามีภาวะต่อมลูกหมากโต ปัสสาวะลำบาก ควรมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา