ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา(Influenza Virus) ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจที่แพร่กระจายโดยการหายใจเอาละอองน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยที่ไอหรือจามเข้าไป รวมถึงการสัมผัสมือและสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ร่วมกับผู้ป่วย
ไข้หวัดใหญ่ มีอาการอย่างไรบ้าง?
การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการคล้ายกับการติดเชื้อไข้หวัดทั่วไป ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีอาการ
- มีไข้
- ไอ เจ็บคอ
- คัดจมูก
- น้ำมูกไหล
- ปวดเมื่อยตามร่างกาย
- อาเจียน
- ท้องเสีย
ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการไม่รุนแรง มักจะมีอาการดังกล่าว และอาการจะทุเลาลงได้ใน 5-7 วัน แต่ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ หายใจเร็ว เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้
การรักษาไข้หวัดใหญ่
ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือมีโรคประจำตัว ควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ โดยแพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ภาวะขาดน้ำรุนแรง ปอดอักเสบ ไซนัสอักเสบ ช่องหูอักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เป็นต้น
ส่วนในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง สามารถเข้ารับคำแนะนำและรับยารักษาตามอาการจากปพทย์หรือเภสัชกร และสามารถดูแลตนเองได้โดย
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หมั่นเช็ดตัวเพื่อลดไข้เป็นระยะ
- ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ
นอกจากการดูแลตนเองแล้ว ผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่ควรมีการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น ซึ่งระยะการแพร่เชื้อจะอยู่ในช่วง 3 วันแรกที่เป็น ดังนั้น ผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้อื่น
ไข้หวัดใหญ่ ป้องกันได้อย่างไรบ้าง?
- หลีกเลี่ยงการคลุกคลีหรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย
- ผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วย ควรสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือทุกครั้งหลังสัมผัสผู้ป่วย
- ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ
- ที่สำคัญ ควรรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็นประจำทุกปี เพื่อป้องกันการเป็นโรคนี้หรือช่วยลดความรุนแรงของโรคเมื่อเป็น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงจากการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งได้แก่
- เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี
- สตรีมีครรภ์
- ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไตวาย โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคปอดอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น
- ผู้ที่ทำงานในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น โรงพยาบาล
โดยในปี 2562 หรือ 2019 นี้ ทาง WHO ได้กำหนดให้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นวัคซีนแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อรวม 4 สายพันธุ์ ได้แก่
- A/Michigan/45/2015 (H1N1)pdm09-like-virus
- A/Switzerland/8060/2017 (H3N2)-like-virus
- B/Colorado/06/2017-like-virus (B/Victoria/2/87 lineage)
- B/Phuket/3073/2013-like virus (B/Yamagata/16/88 lineage)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : แผนกอายุรกรรม
ชั้น 1B โรงพยาบาลสุขุมวิท
โทร. 02-392-0011 ต่อ 225, 226, 227