เบาหวานขึ้นจอประสาทตา

ทำไมเป็นเบาหวานเเล้วต้องตรวจตาทุกคน?

โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ในร่างกายมีระดับน้ำตาลสูงผิดปกติเเละเป็นโรคเรื้องรัง ทำให้มีการเปลี่ยนเเปลงของผนังหลอดเลือดหัวใจ เเละตา เป็นต้น เมื่อหลอดเลือดที่ตาเสื่อมเกิดขึ้น อาจทำให้เกิดการรั่วผิดปกติของของเหลวต่าง ๆ เช่น ไขมัน เลือด ทำให้เกิดจอประสาทตาบวม เลือดออกในน้ำวุ้นตา จอประสาทตาเกิดพังผืดเเละหลุดลอก ส่งผลให้การมองเห็นเเย่ลงถึงขั้นตาบอดได้

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการตรวจตา

การตรวจเบาหวานขึ้นจอประสาทตา ต้องตรวจโดยจักษุเเพทย์เท่านั้น ผู้ป่วยต้องได้รับการขยายม่านตาก่อนรับการตรวจประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง เเละเมื่อยาหมดฤทธิ์ การมองเห็นจะกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารมาก่อนตรวจได้ตามปกติภายใน 4-6 ชั่วโมง เเต่ควรมีญาติหรือผู้ดูเเลมาด้วย เพื่อดูเเลในระหว่างที่ยังไม่หมดฤทธิ์ยาเเละไม่ควรขับรถยนต์ด้วยตนเอง

การป้องกันไม่ให้เบาหวานขึ้นจอประสาทตา

  1. ต้องรักษาให้ภาวะน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติที่สุด โดยพบเเละปรับยาอายุรเเพทย์อย่างสม่ำเสมอ
  2. รักษาความเสี่ยงอื่นๆ ที่จะทำให้หลอดเลือดเกิดความเสื่อม เช่นภาวะความดันโลหิตสูง เป็นต้น<
  3. ตรวจตาโดยจักษุเเพทย์เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือตามที่จักษุเเพทย์ให้การเเนะนำ

หากเบาหวานขึ้นจอประสาทตา จะรักษาอย่างไร?

การรักษาเบาหวานขึ้นจอประสาทตานั้นขึ้นอยู่กับว่า อยู่ในระยะใดของโรค หากเป็นระยะเเรก ไม่จำเป็นต้องทำการรักษา เเต่ต้องมาตรวจติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เเต่หากเกิดภาวะเส้นเลือดงอกผิดปกติหรือจอประสาทตาบวม ในปัจจุบันใช้วิธีรักษาด้วยการยิงเลเซอร์ ให้เส้นเลือดฝอยที่ผิดปกติผ่อไป หรือฉีดยาเข้าวุ้นตา เพื่อลดอาการจอประสาทตาบวม เเต่หากเกิดภาวะเลือดออกในวุ้นตาหรือจอประสาทตาหลุดออก จำเป็นต้องรักษาการผ่าตัด

เบาหวานขึ้นจอประสาทตาป้องกันได้

เมื่อไหร่ที่ต้องตรวจตา วินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน ควรได้รับการตรวจตาทันทีที่ได้รับการวินิจฉัยโรค เเละผู้ป่วยเบาหวานที่ตั้งครรภ์ควรได้รับการตรวจตาตั้งเเต่ช่วงไตรมาสเเรกของการตั้งครรภ์เเละตรวจต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการตั้งครรภ์ส่งผลให้จอตาเสื่อมจากเบาหวานเเย่ลงได้


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ :

ศูนย์ตา โรงพยาบาลสุขุมวิท
เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08:00 - 20:00 น.
โทร. 02-391-0011 ต่อ 601, 601